ทรัมป์คุยจีนสีจิ้นผิง | "Beauty of Yuan (RMB)"
ทรัมป์ สี จิ้นผิง

โชว์ทีเด็ดเอาเข้าให้: ทรัมป์ต่อสายคุยผู้นำจีนสี จิ้นผิง ประกาศขอเงินเดือน1เหรียญ

 

“โดนัลด์ ทรัมป์” เปิดปากผ่านสื่อเป็นครั้งแรกหลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เตรียมขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา โชว์ใจป้ำ ประกาศไม่ขอรับเงินเดือนประจำตำแหน่ง 4 แสนดอลลาร์ต่อปี แต่จะรับแค่ 1 ดอลลาร์ พร้อมยืนยันนโยบายสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก เนรเทศแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเน้นกลุ่มมีประวัติอาชญากรรม นอกจากนี้ยังต่อสายคุยกับ “สี จิ้นผิง” ผู้นำจีน ชมเป็นคนสุขุม เอาจริงเอาจัง ขณะเดียวกันกล่าวถึงผู้ชุมนุมต่อต้านเพราะยังไม่รู้จักตัวเขาดีพอ
สี จิ้นผิง - ทรัมป์
สี จิ้นผิง – ทรัมป์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าบรรยากาศการเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 45 เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏว่าพลิกล็อกผลโพล เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีปากจัดวัย 70 ปี จากพรรครีพับลิกัน คว้าคะแนนคณะผู้เลือกตั้งเกินเกณฑ์ 270 เสียง ชนะนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครตวัย 69 ปี ที่กลับได้คะแนนดิบจากประชาชนหรือป๊อปปูล่าร์โหวตมากกว่า จนนำไปสู่กระแสความไม่พอใจจากผู้สนับสนุนนางฮิลลารี และจัดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ต่อต้านชัยชนะของนายทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่รอขึ้นสู่อำนาจแทนนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 44 ในวันที่ 20 ม.ค. ปีหน้าทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หรือวันที่ 14 พ.ย. ตามเวลาไทย บรรยากาศการประท้วงต่อต้านนายทรัมป์ยังคงคึกคักในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าบริเวณหน้าตึกทรัมป์ ทาวเวอร์ ย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ที่มีฝูงชนมากกว่า 1,000 คน มารวมตัวกัน เช่นเดียวกับผู้ชุมนุมหลัก 200-300 คน ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย และในนครลอสแอนเจลิส นครซานฟรานซิสโก และเมืองซาคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนียส่วนเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน การชุมนุมได้เป็นไปอย่างสงบ หลังจากที่เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดความรุนแรงระหว่างการชุมนุม ฝูงชนบุกทุบกระจกห้างร้าน ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการยิงปืน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน และถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว 71 คน นอกจากนี้ การประท้วงต่อต้านนายทรัมป์ยังมีขึ้นในต่างประเทศ ที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก และที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีวันเดียวกัน รายการ “ซิกตี้ มินิตส์” (60 Minutes) ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส สหรัฐฯ ได้ถ่ายทอดบทสัมภาษณ์นายทรัมป์ ที่ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกหลังจากได้รับเลือกเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยนายทรัมป์กล่าวถึงการชุมนุมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า พวกเขายังไม่รู้จักตนดี พร้อมตอบข้อซักถามที่ว่าชาวอเมริกันกลัวการขึ้นเป็นประธานาธิบดีของนายทรัมป์ ว่าอย่ากลัว เราจะนำประเทศของเราให้กลับมายิ่งใหญ่ กระนั้นตนรู้สึกเสียใจหลังจากได้ยินข่าวว่า ชาวละตินอเมริกันและชาวมุสลิมในสหรัฐฯถูกก่อกวนคุกคาม ขอให้หยุดการกระทำเช่นนี้ได้แล้วจากนั้นนายทรัมป์ชี้แจงถึงนโยบายช่วงหาเสียง เรื่องต่อต้านแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยยืนยันว่าจะสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกแน่นอนแต่บางส่วนอาจจะสร้างได้แค่รั้วกั้น ส่วนแรงงานผิดกฎหมายที่เชื่อว่ามีประมาณ 2-3 ล้านคนในสหรัฐฯ จะต้องถูกเนรเทศหรือลงโทษจำคุก โดยทางการจะมุ่งเป้าไปที่ต่างด้าวมีประวัติอาชญากรรม สมาชิกแก๊ง หรือกระบวนการค้ายาเสพติด กระนั้นหลังสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ เราก็พร้อมจะต้อน รับคนที่ดีๆ เข้ามา ขณะที่เรื่องการขอให้อัยการพิเศษเปิดสอบสวนนางฮิลลารี คลินตัน ต่อกรณีการใช้เซิร์ฟเวอร์จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ส่วนตัว สุ่มเสี่ยงต่อข้อมูลลับราชการรั่วไหลนั้น ขอเก็บไปคิดก่อน

ส่วนเรื่องการแต่งงานของคนรักร่วมเพศ นายทรัมป์ระบุว่าตนไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร ออกเป็นกฎหมาย ศาลสูงสุดได้ตัดสินไปแล้ว เรื่องจบไปแล้ว ขณะที่การแต่งตั้งคนมาประจำตำแหน่งคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดนั้น ตนจะเลือกผู้พิพากษาที่มีจุดยืนพิทักษ์สิทธิการใช้ชีวิต ต้องเป็นผู้พิพากษาที่ต่อต้านการทำแท้ง และเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญมาตรา 2 ว่าด้วยสิทธิการครอบครองอาวุธปืน ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า ตำแหน่งคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุด 1 ใน 9 คน ที่ว่างเว้นมานาน จากการเสีย ชีวิตของผู้พิพากษาแอนโตนิน สกาเลีย และวุฒิสภาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้สกัดกั้นไม่ให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แต่งตั้งคนใหม่มาแทน

นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังกล่าวว่า ตนจะไม่รับเงินเดือนประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จำนวน 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี (ประมาณ 14 ล้านบาท) แต่ตามกฎหมายตนจะต้องรับอย่างน้อย 1 ดอลลาร์ ทำให้ตนมีเงินประจำตำแหน่งผู้นำ 1 ดอลลาร์ต่อปี ส่วนทีมงานใหม่ในทำเนียบขาว นายทรัมป์ได้แต่งตั้งนายไรซ์ พรีบุซ ประธานคณะกรรมการบริหารพรรครีพับลิกัน ที่มีความสนิทสนมกับนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็น หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว ขณะที่นายสตีเฟน เบนนอน ผู้บริหารทีมหาเสียงของนายทรัมป์ ซึ่งเป็นคนเดินเกมนโยบายสุดโต่ง ตั้งแต่การต่อต้านทำแท้ง ต้านชาวมุสลิม ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายวางกลยุทธ์ประจำทำเนียบขาว

ต่อมาในวันเดียวกัน นายทรัมป์ ได้โทรศัพท์หารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยนายทรัมป์ได้ขอบคุณคำอวยพรของนายสี จิ้นผิง ที่กล่าวตอนชนะการเลือกตั้ง จากนั้นทั้งสองได้กล่าวแลกเปลี่ยนความนับถือซึ่งกันและกัน พร้อมเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะมีความสัมพันธ์ที่เข้มแข็ง ขณะที่นายทรัมป์ได้กล่าวภายหลังการสนทนาว่า นายสี จิ้นผิง เป็นคนที่เอาจริงเอาจัง และมีมารยาทสุขุม แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ขณะนั้น

ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้พยายามสัมภาษณ์ความเห็นเกี่ยวกับชัยชนะการเลือกตั้งของนายทรัมป์ จากระดับแกนนำกลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ โดยนายอาบู โอมาร์ โคราซานี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอส ระบุว่านายทรัมป์เป็นคนบ้า และความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมของนายทรัมป์ก็จะเอื้อต่อการเกณฑ์นักรบของเรามากขึ้น เราตามบรรยากาศการเลือกตั้งสหรัฐฯ มาตลอด และไม่คิดว่าชาวอเมริกันจะขุดหลุมฝังตัวเอง ขณะที่แกนนำระดับสูงของกองกำลังติดอาวุธตาลีบัน ผู้ไม่ขอเอ่ยนาม กล่าวว่าติดตามแถลงการณ์ต้านชาวมุสลิมของนายทรัมป์มาตลอด และเชื่อว่าหากนายทรัมป์ทำอย่างที่หาเสียงไว้ ก็จะส่งผลให้กลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ ทั่วโลกพากันฉวยโอกาส ส่วนกลุ่มก่อการร้ายสากลอัล-เคดา ยังไม่ออกแถลงการณ์ใดๆต่อผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯครั้งนี้

Cr: ไทยรัฐออนไลน์
Cr Photos: CNN, AP, Chicago Suntimes

 

แบ่งปันสิ่งนี้: "ร่วมสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ สังคมแห่งการแบ่งปัน"

Post Author: rmb_ad

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

20 + twenty =